เคล็ดลับเลือกกระเบื้องห้องน้ํากันลื่น ให้ปลอดภัยและสวยลงตัว

ห้องน้ำเป็นพื้นที่เปียกชื้นที่มีความเสี่ยงต่อการลื่นล้มมากที่สุดในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ การเลือกกระเบื้องห้องน้ํากันลื่นที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุแล้ว ยังสามารถสร้างความสวยงามให้กับห้องน้ำได้อีกด้วย มาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุณเลือกกระเบื้องห้องน้ำที่ได้ทั้งความสวยและความปลอดภัย

ความสำคัญของกระเบื้องห้องน้ํากันลื่น

กระเบื้องห้องน้ํากันลื่นช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานประสานกันไม่ดี ซึ่งการลื่นล้มอาจนำไปสู่การบาดเจ็บรุนแรง เช่น กระดูกสะโพกหัก หรือศีรษะกระแทก ซึ่งทำให้พิการและมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง การเลือกกระเบื้องที่มีคุณสมบัติกันลื่นจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว

6 เคล็ดลับเลือกกระเบื้องห้องน้ํากันลื่น

มาดูเคล็ดลับในการเลือกกระเบื้องห้องน้ํากันลื่นที่ทั้งสวยงามและปลอดภัยกัน

1. เลือกจากประเภทกระเบื้อง

ประเภทกระเบื้องที่นิยมใช้มีหลายประเภท ดังนี้

กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับห้องน้ำ เนื่องจากมีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำมาก ทนทานสูง และมีผิวสัมผัสที่ช่วยป้องกันการลื่นได้ดี นอกจากนี้ ยังแข็งแรงทนทานต่อรอยขีดข่วน ราคาอาจสูงกว่ากระเบื้องประเภทอื่น แต่คุ้มค่าในระยะยาว
กระเบื้องเซรามิก มีความสวยงามหลากหลาย แต่มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำสูงกว่ากระเบื้องพอร์ซเลน จึงควรเลือกกระเบื้องเซรามิกที่มีผิวสัมผัสพิเศษช่วยกันลื่น เหมาะสำหรับพื้นที่ส่วนแห้งมากกว่าส่วนเปียกในห้องน้ำ
กระเบื้องแกรนิตโต้ มีส่วนผสมของหินแกรนิต ทำให้ทนทานสูง ทำความสะอาดง่าย และมีคุณสมบัติกันลื่นที่ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำซึ่งต้องการความปลอดภัยสูง

2. ดูพื้นผิวของกระเบื้อง (Surface)

ควรเลือกกระเบื้องผิวสัมผัสหยาบ (Anti-Slip) หรือกระเบื้องผิวสัมผัสเรียบด้าน (Matt) เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานขณะเปียกน้ำ หรืออาจจะพิจารณาจากค่า R หรือ Slip Resistance ยิ่งมีค่า R มากเท่าไร ก็จะสามารถกันลื่นได้มากเท่านั้น โดยกระเบื้องที่เหมาะกับห้องน้ำมากที่สุดคือ R10 หรือ R11 ที่มีผิวค่อนข้างหยาบมาก เหมาะกับห้องน้ำโซนเปียก หรือพื้นที่ที่ต้องระมัดระวังเรื่องกันลื่นเป็นพิเศษ เช่น บริเวณรอบสระว่ายน้ำ

3. สีและลวดลายก็สำคัญ

นอกจากคุณสมบัติกันลื่นแล้ว สีและลวดลายของกระเบื้องก็มีความสำคัญ กระเบื้องสีเข้มทำให้ห้องน้ำดูมีมิติสวยงาม แต่จะอำพรางคราบน้ำหรือความเปียกชื้น ทำให้มองไม่เห็นจุดที่เปียกและอาจเพิ่มความเสี่ยงในการลื่นล้มได้ ขณะที่กระเบื้องสีอ่อนหรือมีลวดลายเรียบง่าย จะช่วยให้สังเกตเห็นคราบต่าง ๆ ได้ชัดเจน ทำให้ระมัดระวังขณะใช้งานมากขึ้น และทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ ยังทำให้ห้องน้ำดูโปร่ง โล่ง กว้าง และสะอาดตาด้วย

4. ขนาดของกระเบื้อง

กระเบื้องห้องน้ํากันลื่นมีหลายขนาดตั้งแต่ 8×10 นิ้ว ไปจนถึง 24×24 นิ้ว ซึ่งการเลือกขนาดกระเบื้องห้องน้ำควรคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก โดยคำนวณขนาดพื้นที่ห้องน้ำทั้งหมดของคุณก่อน เพื่อนำไปใช้เลือกขนาดกระเบื้องที่เหมาะสม และซื้อเผื่อประมาณ 5% เผื่อความผิดพลาดระหว่างติดตั้ง สำหรับห้องน้ำขนาดเล็กไม่เหมาะกับกระเบื้องแผ่นใหญ่ เพราะนอกจากจะดูไม่สมดุลแล้ว ยังต้องตัดกระเบื้องหลายชิ้น ทำให้ลวดลายไม่ต่อเนื่องสวยงาม

5. ทนทานต่อน้ำยาทำความสะอาด

กระเบื้องห้องน้ํากันลื่นที่ดีควรทนทานต่อน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ เพราะห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง น้ำยาบางชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนซึ่งอาจทำให้พื้นผิวกระเบื้องเสื่อมสภาพ และลดคุณสมบัติกันลื่นลงได้ ดังนั้น ควรเลือกกระเบื้องคุณภาพสูงที่ทนทานต่อสารเคมีได้ดี เช่น กระเบื้องพอร์ซเลน หรือแกรนิตโต้ จะช่วยรักษาคุณสมบัติกันลื่นไว้ได้ยาวนาน

6. ทำความสะอาดง่าย

นอกจากความปลอดภัยแล้ว การดูแลรักษาความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ พื้นกระเบื้องห้องน้ำควรดูแลทำความสะอาดได้ง่าย สามารถขัดล้างเป็นประจำโดยไม่ต้องใช้วิธีที่ซับซ้อน ช่วยให้รักษาความสะอาดได้สะดวก ลดการสะสมของเชื้อราและสิ่งสกปรกที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

สรุปบทความ

การเลือกกระเบื้องห้องน้ํากันลื่นที่เหมาะสมเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยระยะยาว ควรพิจารณาทั้งประเภทกระเบื้อง พื้นผิว สี ขนาด ความทนทาน และการดูแลรักษา เพื่อให้ได้กระเบื้องที่ทั้งปลอดภัยและสวยงาม

เมื่อเลือกกระเบื้องห้องน้ํากันลื่นได้แล้ว อย่าลืมติดคิ้วกระเบื้องห้องน้ำเพื่อเก็บงาน ปิดรอยต่อระหว่างกระเบื้อง และลดซอกมุมที่อาจสะสมคราบสกปรกได้ Alusite จำหน่ายทั้งคิ้วกระเบื้องอลูมิเนียม และคิ้วกระเบื้องสแตนเลส มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและสี ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ลองแวะมาเลือกซื้อที่เว็บไซต์ Alusite ได้เลย พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ!