10 วิธีเลือกกระเบื้องห้องน้ำ ให้สวยปลอดภัย ทนทานยาวนาน
การตัดสินใจเลือกกระเบื้องห้องน้ำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและการใช้งานในระยะยาว แล้วผนังและพื้นห้องน้ำแบบไหนดีที่จะตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและความปลอดภัย? วันนี้ Alusite จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของกระเบื้องห้องน้ำและวิธีการเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งาน
กระเบื้องห้องน้ำแบ่งเป็น 2 ส่วน
การเลือกกระเบื้องห้องน้ำให้เหมาะสมนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่ากระเบื้องสำหรับห้องน้ำนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามพื้นที่การใช้งาน แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
1. กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ
กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำต้องรับมือกับการใช้งานที่หนักหน่วง ทั้งการรับน้ำหนัก แรงกระแทก และความชื้น โดยพื้นที่ในห้องน้ำแบ่งเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง โซนเปียกคือบริเวณที่โดนน้ำโดยตรง เช่น พื้นที่อาบน้ำ ควรเลือกกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำที่มีคุณสมบัติกันลื่นสูง ส่วนโซนแห้งเป็นพื้นที่ที่ไม่โดนน้ำโดยตรง สามารถเลือกกระเบื้องที่มีค่ากันลื่นน้อยกว่าได้ แต่ต้องมีความทนทานต่อความชื้นและการขัดถูทำความสะอาด
2. กระเบื้องปูผนังห้องน้ำ
กระเบื้องผนังห้องน้ำควรมีคุณสมบัติในการทนความชื้นและการเช็ดทำความสะอาดง่าย นิยมใช้กระเบื้องโมเสก กระเบื้องแก้ว และกระเบื้องเซรามิก โดยเฉพาะกระเบื้องเซรามิกที่มีขนาดหลากหลาย และมีโทนสีต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากที่สุด กระเบื้องผนังมักมีน้ำหนักเบากว่ากระเบื้องพื้นและมีความหนาน้อยกว่า แต่ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ
10 เทคนิควิธีเลือกกระเบื้องห้องน้ำ
การเลือกกระเบื้องห้องน้ำที่ดีนั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เพื่อให้ได้กระเบื้องที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและการใช้งาน
1. มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ
กระเบื้องที่ดีควรมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำกว่าหรือเท่ากับ 3% โดยกระเบื้องที่มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำจะทำให้กระเบื้องทนทาน ใช้ได้นาน ไม่หลุดร่อนง่าย นอกจากนี้ยังช่วยให้ทำความสะอาดง่ายและป้องกันคราบสกปรกฝังลึก เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำที่มีความชื้นสูง
2. ขนาดของกระเบื้องห้องน้ำ
การเลือกขนาดกระเบื้องห้องน้ำควรพิจารณาจากพื้นที่ใช้งาน ห้องน้ำขนาดเล็ก ควรเลือกใช้กระเบื้องขนาดเล็ก เช่น 20×20 หรือ 30×30 ซม. หรือกระเบื้องโมเสก เพื่อให้ห้องน้ำดูกว้างมากขึ้น ส่วนห้องน้ำขนาดใหญ่สามารถใช้กระเบื้องขนาดใหญ่ได้ถึง 60×60 หรือ 60×80 ซม. ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศในห้องน้ำดูโล่ง โปร่ง สบายตา น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
3. ค่ากันลื่นที่เหมาะสม
ค่ากันลื่น หรือค่า R (Slip Resistance Rating) เป็นค่าที่บอกความสามารถในการกันลื่นของแผ่นกระเบื้อง ยิ่งค่า R มากเท่าไร ยิ่งป้องกันความลื่นได้ดี โดยวิธีเลือกกระเบื้องห้องน้ำ ค่า R ควรอยู่ที่ R10 หรือสูงกว่าสำหรับพื้นที่เปียก เช่น พื้นที่อาบน้ำ จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่แห้งสามารถใช้กระเบื้องที่มีค่ากันลื่น R9 ได้ นอกจากนี้ยังควรพิจารณาพื้นผิวของกระเบื้องที่มีความหยาบเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
4. สีและลวดลาย
การเลือกสีและลวดลายของกระเบื้องห้องน้ำนั้นนอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการใช้งานระยะยาว โทนสีอ่อนจะช่วยให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น แต่อาจเห็นคราบสกปรกได้ง่าย ส่วนโทนสีเข้มอาจทำให้ห้องดูทึบแต่ซ่อนคราบได้ดีกว่า ลวดลายของกระเบื้องไม่ควรจะเลือกลวดลายที่เยอะจนเกิน เพราะจะทำให้มองไปทางไหนก็ดูรกตา และทำให้ลายตาไปกับลวดลายที่มากเกินด้วย
5. ความแข็งแรงของกระเบื้อง
กระเบื้องห้องน้ำต้องมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานหนัก โดยเฉพาะกระเบื้องปูพื้นที่ต้องรับน้ำหนักและการกระแทก ความหนาของกระเบื้องควรอยู่ที่ 8-10 มม. สำหรับพื้น และหักลบประมาณ 2 มม. สำหรับผนัง นอกจากนี้ยังควรพิจารณาเลือกกระเบื้องที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม มีการรับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ
6. ความเข้ากันได้ของกระเบื้องกับอุปกรณ์สุขภัณฑ์
วิธีเลือกกระเบื้องห้องน้ำควรคำนึงถึงความเข้ากันได้กับอุปกรณ์สุขภัณฑ์ที่มีอยู่หรือจะติดตั้งใหม่ เช่น สีและสไตล์ของกระเบื้องควรเข้ากันกับอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์อื่น ๆ การวางแผนการออกแบบอย่างรอบคอบจะช่วยให้ห้องน้ำมีความสวยงามและสามัคคีกัน ไม่แตกต่างจนเกินไป
7. เลือกพื้นผิวกระเบื้องให้เหมาะกับตำแหน่งใช้งาน
พื้นผิวของกระเบื้องปูพื้นห้องน้ํามีผลต่อทั้งความปลอดภัยและความสวยงาม กระเบื้องที่ใช้ปูพื้นควรมีผิวสัมผัสหยาบเล็กน้อยหรือมีเท็กซ์เจอร์เพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นล้ม โดยเฉพาะพื้นที่เปียก เช่น บริเวณอาบน้ำหรือหน้าห้องน้ำ ส่วนกระเบื้องสำหรับผนังสามารถเลือกแบบผิวเรียบหรือเงาเพื่อความสวยงามและทำความสะอาดง่าย การเลือกพื้นผิวให้เหมาะสมยังช่วยเสริมบรรยากาศห้องน้ำให้กลมกลืนและใช้งานได้อย่างปลอดภัย
8. ความสะดวกในการดูแลรักษา
กระเบื้องปูพื้นห้องน้ําที่ดีควรทำความสะอาดง่าย ไม่จับคราบสบู่หรือคราบตะไคร่น้ำ โดยเฉพาะกระเบื้องบริเวณพื้นและผนังโซนอาบน้ำ ควรหลีกเลี่ยงกระเบื้องที่มีร่องลึกหรือผิวหยาบมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของคราบสิ่งสกปรก และหากต้องการลดภาระในการดูแลในระยะยาว ควรเลือกกระเบื้องที่มีการเคลือบผิวกันคราบหรือผิวเคลือบพิเศษสำหรับห้องน้ำโดยเฉพาะ
9. เลือกกระเบื้องที่มีบริการหลังการขาย
อีกวิธีเลือกกระเบื้องห้องน้ำที่สำคัญ คือการเลือกแบรนด์กระเบื้องที่มีบริการหลังการขายหรือมีศูนย์บริการในประเทศจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน หากเกิดปัญหา เช่น กระเบื้องแตกร้าว สีไม่ตรง หรือมีข้อบกพร่องจากการผลิต จะสามารถเคลมหรือขอคำแนะนำได้สะดวกรวดเร็ว และบางแบรนด์ยังมีบริการให้คำปรึกษาเรื่องการปูและเลือกกระเบื้องให้เหมาะกับห้องน้ำแต่ละประเภทอีกด้วย
10. งบประมาณและความคุ้มค่า
กระเบื้องห้องน้ำมีให้เลือกหลากหลายระดับราคา การวางแผนงบประมาณล่วงหน้าและเลือกวัสดุที่คุ้มค่ากับการใช้งานจริงจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องเลือกกระเบื้องที่แพงที่สุดเสมอไป แต่ควรเปรียบเทียบราคากับคุณภาพ เช่น ความแข็งแรง ค่ากันลื่น และการรับประกันจากผู้ผลิต เพื่อให้การลงทุนในห้องน้ำครั้งนี้คุ้มค่าและอยู่ได้นาน
ประเภทต่าง ๆ ของกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ
การเลือกประเภทของกระเบื้องให้เหมาะสมกับการใช้งานในห้องน้ำจะช่วยให้ห้องน้ำของคุณสวยงาม ทนทาน และตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่รู้จะเลือกประเภทพื้นห้องน้ำแบบไหนดี ลองพิจารณาประเภทกระเบื้องเหล่านี้
1. กระเบื้องเซรามิก
กระเบื้องเซรามิกเป็นตัวเลือกยอดนิยมและประหยัด ผลิตจากดินเหนียวผสมกับแร่ธาตุอื่น ๆ แล้วนำไปเผาที่อุณหภูมิสูง มีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี ทำความสะอาดง่าย และมีให้เลือกหลากหลายสีสัน ลวดลาย ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตามกระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงน้อยกว่าประเภทอื่น อาจแตกหักได้ง่ายหากมีแรงกระแทกสูง และมีรูพรุนมากกว่าพอร์ซเลน ทำให้ดูดซึมน้ำได้มากกว่าเล็กน้อย จึงเหมาะกับพื้นที่ส่วนแห้งมากกว่า
2. กระเบื้องพอร์ซเลน
กระเบื้องพอร์ซเลนผลิตจากดินขาวบริสุทธิ์และแร่ธาตุเกรดพรีเมียม เผาที่อุณหภูมิสูง จึงมีความแข็งแรงและทนทาน อัตราการดูดซึมน้ำต่ำมาก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานสูง มีลวดลายสวยงาม เลือกได้ทั้งพื้นผิวมันและผิวด้าน แม้ราคาจะสูงกว่าเซรามิก แต่ให้ความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยความทนทานและการบำรุงรักษาที่ง่าย
3. กระเบื้องแกรนิตโต้
กระเบื้องแกรนิตโต้เป็นกระเบื้องที่ผลิตจากผงหินแกรนิตผสมกับดินขาวและเผาด้วยความร้อนสูง ทำให้มีคุณสมบัติคล้ายหินธรรมชาติ ทั้งความแข็งแกร่ง ทนทาน และสวยงาม มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำมากเช่นเดียวกับกระเบื้องพอร์ซเลน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำ แต่กระเบื้องแกรนิตโต้อาจมีน้ำหนักมากและราคาค่อนข้างสูงกว่ากระเบื้องชนิดอื่น ๆ
4. กระเบื้องโมเสค
กระเบื้องโมเสคคือกระเบื้องชิ้นเล็ก ๆ ที่นำมาประกอบกันเป็นแผ่นใหญ่ มีขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย ทำให้สามารถสร้างสรรค์ลวดลายและดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ให้กับห้องน้ำได้ดี การปูกระเบื้องโมเสคอาจใช้เวลาและความละเอียดอ่อนมากกว่ากระเบื้องแผ่นใหญ่ รวมทั้งยาแนวมีสัดส่วนมากกว่า จึงต้องใส่ใจการทำความสะอาดมากกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและโดดเด่นเป็นพิเศษ
วิธีคำนวณขนาดกระเบื้อง พร้อมตัวอย่าง
วิธีการคำนวณขนาดกระเบื้อง สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- คำนวณพื้นที่ห้องน้ำ วัดขนาดด้านกว้างและด้านยาวของห้องน้ำ จากนั้นใช้สูตร พื้นที่ = ด้านกว้าง X ด้านยาว เพื่อหาขนาดพื้นที่ของห้องน้ำเป็นตารางเมตร
-
-
- ตัวอย่าง หากห้องน้ำของคุณกว้าง 2 เมตร และยาว 3 เมตร พื้นที่ห้องน้ำของคุณคือ 2 เมตร×3 เมตร = 6 ตารางเมตร
-
- ตรวจสอบข้อมูลบนกล่องกระเบื้อง เมื่อทราบพื้นที่ห้องน้ำแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูลบนกล่องกระเบื้องที่คุณสนใจ โดยปกติแล้วกล่องกระเบื้องจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่ากระเบื้อง 1 กล่อง สามารถปูได้กี่ตารางเมตร
- คำนวณจำนวนกระเบื้องที่ต้องใช้ นำพื้นที่ห้องน้ำที่คำนวณได้มาหารด้วยพื้นที่ที่กระเบื้อง 1 กล่องปูได้ จากนั้นอย่าลืม เผื่อกระเบื้องสำรองไว้ประมาณ 3-5% ของจำนวนกระเบื้องที่ใช้จริง เพื่อชดเชยความเสียหายหรือเผื่อไว้ใช้ซ่อมแซมในอนาคต
-
-
- ตัวอย่าง หากห้องน้ำมีพื้นที่ 6 ตารางเมตร และกระเบื้อง 1 กล่องปูได้ 1.5 ตารางเมตร คุณจะต้องใช้กระเบื้องทั้งหมด 6 ตร.ม./1.5 ตร.ม./กล่อง = 4 กล่อง และควรซื้อเผื่ออีก 3−5% เพื่อความอุ่นใจ
-
8 ไอเดียปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำ
สุดท้ายนี้ หากยังไม่แน่ใจว่าจะปูพื้นห้องน้ำแบบไหนดี เพื่อให้สวยงามและตอบโจทย์การใช้งาน เราขอแนะนำ 8 ไอเดียที่จะช่วยให้คุณมีห้องน้ำที่สวยงามและใช้งานได้ดี
1. กระเบื้องห้องน้ำลายหินอ่อนต่อเนื่อง
สร้างความหรูหราและโมเดิร์นให้กับห้องน้ำของคุณด้วยการปูกระเบื้องพื้นและผนังด้วยลวดลายหินอ่อนเดียวกันตลอดทั้งห้อง โดยเลือกใช้กระเบื้องสีอ่อนแผ่นใหญ่ และต้องแน่ใจว่าเป็นกระเบื้องที่สามารถปูได้ทั้งพื้นและผนังเพื่อป้องกันปัญหากระเบื้องโก่งตัวหรือหลุดร่อนจากการรับน้ำหนักของผนัง
2. ผสมผสานกระเบื้องสองสไตล์
สร้างมิติและความน่าสนใจให้กับห้องน้ำด้วยการผสมผสานกระเบื้องสองสไตล์เข้าด้วยกัน เช่น ปูกระเบื้องลายไม้ที่พื้นเพื่อความอบอุ่น แล้วจับคู่กับกระเบื้องสีขาวเรียบที่ผนังเพื่อให้ห้องดูโปร่งสบาย การเลือกใช้กระเบื้องที่มีพื้นผิวหรือลวดลายต่างกันจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นและสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจให้กับห้องน้ำของคุณได้
3. กระเบื้องลายแพทเทิร์นกราฟิก
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานและต้องการให้ห้องน้ำมีชีวิตชีวา ลองเลือกกระเบื้องลายแพทเทิร์นกราฟิกมาปูบางส่วน เช่น ผนังด้านใดด้านหนึ่ง หรือโซนอาบน้ำ การใช้กระเบื้องที่มีลวดลายโดดเด่นจะช่วยสร้างจุดเด่นและสะท้อนสไตล์ส่วนตัวของคุณได้เป็นอย่างดี ควรเลือกใช้สีสันที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เพื่อไม่ให้ห้องดูรกตา และติดตั้งคิ้วอลูมิเนียมที่มีสีสันเข้ากันหรือตัดกันกับกระเบื้อง จะช่วยสร้างเส้นสายที่คมชัด รวมทั้งช่วยปกป้องขอบกระเบื้องไม่ให้บิ่นหรือแตกง่าย
4. กระเบื้องขนาดใหญ่เพื่อความเรียบง่าย
การใช้กระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษสำหรับปูพื้นและผนังจะช่วยลดจำนวนรอยต่อของยาแนว ทำให้ห้องน้ำดูเรียบเนียน กว้างขวาง และทันสมัย อีกทั้งยังทำความสะอาดง่ายขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่ให้คราบสกปรกสะสมน้อยลง ไอเดียนี้เหมาะสำหรับห้องน้ำทุกขนาด และยังช่วยให้การติดตั้งรวดเร็วขึ้นอีกด้วย
5. สร้างโซนเปียก-แห้งด้วยกระเบื้องต่างชนิด
การแยกพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งภายในห้องน้ำให้ชัดเจน ไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ยังทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น วิธีที่ง่ายและได้ผลคือการเลือกใช้กระเบื้องคนละชนิดหรือคนละสี เช่น โซนอาบน้ำควรใช้กระเบื้องที่มีค่ากันลื่นสูง ผิวสัมผัสหยาบเล็กน้อย หรือมีลวดลายโดดเด่น ส่วนโซนแห้งอาจเลือกใช้กระเบื้องผิวเรียบ โทนสีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การออกแบบแบบนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านฟังก์ชัน แต่ยังช่วยเสริมดีไซน์ให้ห้องน้ำดูมีมิติ สวยงาม และใช้งานได้อย่างลงตัวในทุกวัน
6. กระเบื้องปูพื้นลายไม้สร้างความอบอุ่น
การตกแต่งห้องน้ำให้ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกใช้กระเบื้องลายไม้ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายทั้งในด้านลวดลายและเฉดสีที่ใกล้เคียงกับไม้จริง แต่ยังคงคุณสมบัติของกระเบื้องที่ทนต่อความชื้นและทำความสะอาดง่าย สำหรับใครที่สงสัยว่า คิ้วกระเบื้องห้องน้ำเลือกอย่างไรจึงจะเข้ากับลายไม้ แนะนำให้เลือกคิ้วกระเบื้องที่มีโทนสีเดียวกันหรือใกล้เคียง เพื่อให้ทุกองค์ประกอบดูกลมกลืนและเสริมความเรียบร้อยให้พื้นที่ใช้งาน
7. กระเบื้องสีขาวสะอาดตากับยาแนวสีเข้ม
หากชอบห้องน้ำสไตล์มินิมอลหรือโมเดิร์นคลาสสิก การเลือกปูกระเบื้องสีขาวเรียบทั้งห้องเป็นทางเลือกที่ทั้งเรียบง่ายและดูสะอาดตาอยู่เสมอ แต่เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเรียบจนเกินไป ลองเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้ยาแนวสีเข้ม เช่น เทาเข้มหรือดำ เพื่อช่วยขับเส้นแนวกระเบื้องให้ชัดเจน สร้างมิติให้พื้นผิวดูน่าสนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพรางคราบสกปรกได้ดี เมื่อปูพื้นเสร็จแล้ว แนะนำให้ติดบัวเชิงอลูมิเนียมที่ขอบผนัง เพื่อเสริมความเรียบร้อยของพื้นที่ ใช้งานได้นาน และเข้ากับลุคโดยรวมของห้องน้ำแบบทันสมัยได้อย่างลงตัว
8. เน้นผนังด้วยกระเบื้องโมเสค
เปลี่ยนผนังห้องน้ำให้เป็นจุดเด่นด้วยการปูกระเบื้องโมเสค ไม่ว่าจะเป็นโมเสคแก้ว โมเสคหิน หรือโมเสคเซรามิก การใช้กระเบื้องโมเสคในพื้นที่เล็ก ๆ เช่น ผนังหลังอ่างล้างหน้า หรือผนังในโซนอาบน้ำ จะช่วยเพิ่มความระยิบระยับและลวดลายที่น่าสนใจให้กับห้องน้ำได้โดยไม่ทำให้ห้องดูรกจนเกินไป นอกจากนี้การใช้คิ้วกระเบื้องบริเวณขอบของพื้นที่โมเสคจะช่วยให้การติดตั้งดูเรียบร้อยและจบงานได้สวยงาม
ปูกระเบื้องห้องน้ำอย่างไร ให้ทำความสะอาดง่าย
หลังจากรู้เทคนิคและไอเดียดี ๆ สำหรับกระเบื้องห้องน้ำแล้ว มาดูกันต่อว่า จะปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำอย่างไร ให้ทำความสะอาดง่ายกัน
- เตรียมพื้นผิวให้เรียบเนียน ปรับระดับพื้นให้เรียบไม่มีหลุมบ่อ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกในช่องว่าง และใช้กันซึมคุณภาพดีเพื่อป้องกันการรั่วซึมที่อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้น
- เลือกกระเบื้องที่ทำความสะอาดง่าย เลือกกระเบื้องที่มีพื้นผิวเรียบและมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ เพราะจะช่วยลดการสะสมของคราบสกปรกและเชื้อราได้ดีกว่ากระเบื้องที่มีพื้นผิวหยาบหรือรูพรุน
- ใช้ยาแนวกันเชื้อรา เลือกใช้ยาแนวที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและคราบสกปรก ซึ่งจะช่วยให้ร่องยาแนวยังคงสะอาดและดูใหม่อยู่เสมอ อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดคราบดำที่มักพบบริเวณร่องยาแนวในห้องน้ำ
- เลือกขนาดยาแนวที่เหมาะสม ยาแนวที่กว้างเกินไปจะสะสมสิ่งสกปรกได้ง่าย
-
-
- กระเบื้องปูพื้นทั่วไป ควรเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 3-5 มม.
- กระเบื้องบุผนังทั่วไป ควรเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 1-3 มม.
-
- ปูกระเบื้องแบบแบ่งโซนแห้งและโซนเปียก ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย ลดเวลาในการทำความสะอาด
- ติดคิ้วกระเบื้องบริเวณมุมและขอบ การติดคิ้วกระเบื้องช่วยปิดผนึกช่องว่างที่อาจเป็นจุดสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกระเบื้องห้องน้ำ
1. กระเบื้องห้องน้ำสีอะไรไม่สกปรก
กระเบื้องสีที่ไม่แสดงคราบสกปรกเด่นชัด ได้แก่ สีอ่อน เช่น สีเทาอ่อน สีเบจ หรือสีน้ำตาลอ่อน เป็นโทนที่ช่วยพรางคราบสกปรกได้ดี ไม่เห็นคราบน้ำหรือคราบสบู่ง่ายเหมือนสีขาวล้วนหรือสีดำสนิท
2. พื้นในห้องน้ำควรเป็นพื้นอะไร
พื้นห้องน้ำควรเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน หรือแกรนิตโต้ที่มีค่ากันลื่น R10 ขึ้นไป มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำกว่า 3% และผิวหน้าที่หยาบเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัย
3. พื้นห้องน้ำแบบไหนทำความสะอาดง่าย
พื้นห้องน้ำที่ทำความสะอาดง่ายควรเป็น กระเบื้องที่มีพื้นผิวเรียบหรือกึ่งเรียบ และมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ เช่น กระเบื้องพอร์ซเลน หรือกระเบื้องแกรนิตโต้ เพราะจะช่วยลดการเกาะติดของคราบสกปรก เชื้อรา และคราบสบู่ อีกทั้งยังเช็ดถูง่ายและไม่สะสมสิ่งสกปรกตามร่องยาแนวมากนัก หากเลือกกระเบื้องที่มีร่องยาแนวน้อย (เช่น กระเบื้องแผ่นใหญ่) ก็จะยิ่งทำความสะอาดได้สะดวกขึ้น
4. พื้นห้องน้ำควรปูด้วยวัสดุอะไรดี
กระเบื้องที่นิยมและเหมาะสมที่สุดคือ กระเบื้องพอร์ซเลน และกระเบื้องแกรนิตโต้ เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำได้ดีเยี่ยม สำหรับงบประมาณที่จำกัดสามารถเลือกกระเบื้องเซรามิกคุณภาพดีได้
5. ห้องน้ำแคบควรใช้กระเบื้องแบบไหน
สำหรับห้องน้ำแคบ ควรใช้กระเบื้องขนาดใหญ่ เช่น 60×60 ซม. หรือ 60×80 ซม. และเลือกใช้ โทนสีอ่อนหรือสีสว่าง เช่น สีขาว สีเบจ หรือสีเทาอ่อน การใช้กระเบื้องขนาดใหญ่จะช่วยลดจำนวนรอยต่อ ทำให้ห้องดูกว้างขวางและต่อเนื่องกันมากขึ้น ส่วนสีอ่อนจะช่วยสะท้อนแสง ทำให้ห้องดูโปร่งและไม่อึดอัด
6. กระเบื้องห้องน้ำแบบไหนไม่ลื่น
กระเบื้องห้องน้ำที่ไม่ลื่นควรเป็นกระเบื้องที่มี ค่ากันลื่น หรือ ค่า R (Slip Resistance Rating) ตั้งแต่ R10 ขึ้นไป รวมทั้งกระเบื้องที่มีพื้นผิวสัมผัสหยาบเล็กน้อย หรือมีลวดลาย/เท็กซ์เจอร์จะช่วยเพิ่มแรงเสียดทานและป้องกันการลื่นได้ดีกว่ากระเบื้องที่มีพื้นผิวเรียบมัน
สรุปบทความ
การเลือกกระเบื้องห้องน้ำที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัยสำคัญ เริ่มจากอัตราการดูดซึมน้ำที่ควรต่ำกว่า 3% และค่ากันลื่น R10 ขึ้นไปเพื่อความปลอดภัย ขนาดกระเบื้องควรเลือกให้เข้ากับพื้นที่ห้องน้ำ สีและลวดลายควรเลือกให้สมดุลระหว่างความสวยงามและการซ่อนคราบสกปรก พื้นผิวต้องเหมาะกับตำแหน่งใช้งาน โดยพื้นควรหยาบเล็กน้อยเพื่อกันลื่น ส่วนผนังใช้ผิวเรียบทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความเข้ากันได้กับอุปกรณ์สุขภัณฑ์ การดูแลรักษา บริการหลังการขาย และงบประมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้กระเบื้องที่คุ้มค่าและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
เพื่อให้งานปูกระเบื้องสมบูรณ์แบบ อย่าลืมติดตั้งวัสดุจบงานพื้น-ผนังอย่างคิ้วกระเบื้อง เพื่อเก็บรายละเอียดงานปูกระเบื้องให้สวยงามยิ่งขึ้น โดย Alusite จัดจำหน่ายคิ้วกระเบื้องหลายรูปแบบ ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ลองแวะมาเลือกซื้อที่ Alusite ได้เลย พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ!