จัดฮวงจุ้ยห้องครัวให้ถูกหลัก เสริมโชคลาภ ปังทุกด้าน
ถ้าพูดถึงการจัดบ้านให้ถูกหลักมงคล หลายคนมักจะนึกถึงฮวงจุ้ยห้องนอน หรือฮวงจุ้ยบันไดบ้าน เป็นอันดับแรก เพราะเชื่อมโยงกับสุขภาพและความเป็นอยู่โดยตรง แต่จริงๆ แล้ว ฮวงจุ้ยห้องครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะห้องครัวถือเป็นแหล่งหล่อเลี้ยงคนในบ้าน ทั้งอาหารการกินและบรรยากาศก็มีผลต่อโชคลาภ สุขภาพ และความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวเหมือนกัน หากจัดห้องครัวได้ถูกหลัก ไม่เพียงแค่ทำอาหารอร่อยขึ้น แต่ยังช่วยหนุนดวงให้มีแต่เรื่องดี ๆ ไหลเข้ามาในบ้านได้ตลอดทั้งปี
15 วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องครัวให้ถูกต้อง
ลองมาดู 15 วิธีปรับฮวงจุ้ยห้องครัวที่ทำได้จริง ใช้งานได้จริง และช่วยให้การทำอาหารและการอยู่ในบ้านสบายใจยิ่งขึ้น
1. ตำแหน่งห้องครัวควรอยู่หลังบ้าน
ตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัว การวางตำแหน่งห้องครัวไว้หลังบ้านจะช่วยเก็บขุมทรัพย์ของบ้านให้ปลอดภัยจากสายตาคนภายนอก อีกทั้งยังป้องกันปัญหากลิ่นควันไหลย้อนเข้าบ้านเมื่อเปิดประตูหน้า การจัดห้องครัวไว้ด้านหลังยังช่วยให้การระบายอากาศเป็นธรรมชาติ เหมาะมากสำหรับบ้านที่ต้องการครัวไทย ครัวหนัก
2. ทิศของห้องครัวที่เหมาะสม
ตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัว ถ้าจะให้ห้องครัวส่งเสริมเรื่องโชคลาภ การทำอาหารให้อร่อย คนในบ้านมีสุขภาพดี ควรวางห้องครัวไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพราะสองทิศนี้ถือเป็นทิศธาตุไฟตามหลักจีนโบราณ ทำให้พลังไฟในห้องครัวแข็งแรง มีความสมดุลกับพลังธาตุน้ำ เช่น อ่างล้างจาน หรือพื้นที่ซักล้าง ช่วยให้ธาตุไม่ขัดกัน
3. ห้องครัวไม่อยู่กลางบ้านหรือหน้าบ้าน
ตำแหน่งของห้องครัวที่หลายคนอาจมองข้ามคือไม่ควรจัดอยู่กลางบ้านเด็ดขาด เพราะจุดกึ่งกลางของบ้านตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัวเปรียบเหมือนหัวใจหรือศูนย์รวมพลัง หากครัวที่เป็นธาตุไฟไปเผาใจกลางบ้าน อาจทำให้พลังดีสลาย ความรักและความสัมพันธ์ในบ้านขัดแย้ง ส่วนการวางครัวไว้หน้าบ้านก็ไม่ควร เพราะจะเหมือนเปิดทรัพย์ให้หลุดรอดออกไป ควรจัดห้องครัวไว้หลังบ้านจะปลอดภัยกว่า
4. ห้องครัวไม่ควรติดกับห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นแหล่งธาตุน้ำ ส่วนครัวคือธาตุไฟ หากจัดให้อยู่ชิดกันตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัวจะเกิดพลังปะทะ ทำให้คนในบ้านสุขภาพไม่ดีง่าย เกิดความขัดแย้ง ป่วยบ่อย นอกจากนี้ยังเสี่ยงเรื่องสุขอนามัย เพราะห้องน้ำเต็มไปด้วยเชื้อโรคและความชื้นที่อาจปนมากับอากาศในครัวได้ง่าย บ้านไหนพื้นที่จำกัดควรใช้ฉากกั้นหรือก่อผนังให้แยกส่วนให้ชัดจะดีกว่า
5. สร้างกำแพงพิงหลังเตาไฟ
เตาไฟคือหัวใจสำคัญของพื้นที่ทำอาหาร เปรียบได้กับจุดเรียกโชคลาภ ถ้าหลังเตามีกำแพงพิงจะเหมือนมีหลักค้ำให้พลังไฟนิ่งและแข็งแรง ช่วยหนุนโชคลาภ การเงินไม่ติดขัด แต่ถ้าวางเตาลอยหรือมีหน้าต่างอยู่ด้านหลัง พลังไฟจะกระจาย ทำให้รายได้รายจ่ายขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่มั่นคง หากปรับพื้นที่ใหม่ได้ควรทำผนังเสริมหลังเตาไฟให้เรียบร้อย
6. จัดวางเตาไฟในทิศที่เหมาะสม
นอกจากตำแหน่งแล้ว ทิศทางที่วางเตาไฟก็สำคัญตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัว ควรให้หัวเตาหันไปทางทิศที่หนุนธาตุไฟ เช่น ทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือจะหันทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือก็ถือว่าใช้ได้เช่นกัน จะช่วยให้คนปรุงอาหารทำงานได้คล่องตัว ปรุงอะไรก็ออกมาอร่อย ช่วยลดปัญหาไฟดับ ไฟติดขัดหรือเปลวไฟไม่เสถียรได้ด้วย
7. สร้างสามเหลี่ยมทอง เตา อ่าง ตู้เย็น
เคล็ดลับจัดห้องครัวให้ใช้งานง่ายและถูกหลักฮวงจุ้ยห้องครัวคือ การจัดวาง “สามเหลี่ยมทอง” ได้แก่ เตาไฟ อ่างล้างจาน และตู้เย็น ให้อยู่ในจุดที่สามารถเดินถึงกันได้ง่าย แต่ไม่ติดกันเกินไปเพื่อไม่ให้ธาตุไฟและธาตุน้ำกระทบกันโดยตรง ระยะห่างพอดีจะช่วยให้คนใช้งานครัวคล่องตัว ทำอาหารสบายใจ ไม่มีอุบัติเหตุหรือเรื่องขัดแย้งกันในครอบครัว
8. หลีกเลี่ยงเตาไฟตรงข้ามประตู
เตาไฟที่ตั้งตรงประตูจะดูดพลังดีออกนอกบ้านตามหลักฮวงจุ้ย ทำให้เงินทองรั่วไหล โชคลาภไปไม่ถึงตัว เจ้าของบ้านต้องเหนื่อยหาเงินอยู่ตลอด นอกจากนี้ หลักฮวงจุ้ยยังเชื่อว่า การวางเตาไฟตรงข้ามประตูจะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ โรคไต โรคนิ่วในไต หรือตำแหน่งอวัยวะอื่นที่นำไปสู่โรคมะเร็งได้
9. ไม่ให้เตาไฟอยู่ใต้คาน หรือลอย ๆ ไม่มีอะไรกั้น
หากเตาไฟอยู่ใต้คาน จะเหมือนพลังถูกกดทับ คนในบ้านเจ็บป่วยง่าย มักเจอปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ส่วนการวางเตาไฟกลางห้องแบบไม่มีผนังหรือกำแพงพิงตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัวถือว่าไม่ดีเพราะพลังไฟจะกระจาย ไร้หลัก ไร้โชค
10. รักษาความสะอาดอยู่เสมอ
ครัวที่สะอาดคือครัวที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัว เพราะสิ่งสกปรกหรือของหมักหมมจะกักเก็บพลังงานเสียไว้ ทำให้โชคลาภติดขัด สุขภาพคนในบ้านก็แย่ลงได้ ควรจัดเก็บของใช้ในครัวให้เรียบร้อย ดูแลพื้น ผนัง วัสดุท็อปเคาน์เตอร์ครัวให้สะอาดอยู่เสมอ จะช่วยให้พลังดีหมุนเวียนไปได้ทั่วห้องครัว
11. หลีกเลี่ยงกระจกในห้องครัว
กระจกในห้องครัวจะสะท้อนและขยายพลังงานทั้งดีและไม่ดี ในห้องครัวที่มีธาตุไฟสูงอยู่แล้ว การติดกระจกจะเพิ่มความร้อนและสร้างความไม่สมดุลของพลังงาน หากต้องการพื้นผิวที่สะท้อนแสง ควรเลือกใช้วัสดุอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น กระเบื้องหรือแผ่นสแตนเลส
12. เลือกสีห้องครัวให้เหมาะสม
โทนสีห้องครัวที่สว่างสดใสตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัว เช่น สีครีม สีเหลืองอ่อน หรือสีเขียวอ่อน จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศให้สดชื่น เสริมความสมดุลระหว่างธาตุไฟกับธาตุน้ำ ทำให้อากาศถ่ายเทดี ห้องครัวไม่อับ ทำอาหารก็สบายตา คนในบ้านทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาในบรรยากาศดี ๆ
13. จัดแสงสว่างให้เพียงพอ
ไฟในห้องครัวสำคัญกว่าที่คิด นอกจากจะช่วยให้มองเห็นชัด ปลอดภัยเวลาทำอาหารแล้ว แสงสว่างยังเป็นตัวกระตุ้นพลังงานดีตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัวด้วย ควรมีทั้งไฟสว่างหลักและไฟเฉพาะจุด เช่น เหนือเตาไฟ อ่างล้างจาน หรือมุมเตรียมอาหาร เพื่อให้ทุกพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่
14. ใช้ของตกแต่งเสริมมงคล
อยากให้ห้องครัวมีพลังงานสดใสขึ้น ลองจัดแจกันดอกไม้สด ต้นไม้ฟอกอากาศ หรือผลไม้ตามฤดูกาลวางบนเคาน์เตอร์ก็ช่วยได้ ทั้งสวยและเสริมโชคตามหลักฮวงจุ้ยห้องครัว ของแต่งพวกนี้ราคาไม่แพง จัดวางให้เหมาะก็ถือว่าเป็นไอเดียตกแต่งภายในบ้านแบบประหยัดที่ช่วยให้ครัวสดใสได้ทันที
15. จัดระบบระบายอากาศให้ดี
ห้องครัวต้องมีระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อให้พลังดีไหลเวียนได้ตลอดเวลา หากครัวอับหรือมีควัน จะทำให้พลังดีติดขัด บรรยากาศไม่น่าใช้ การติดตั้งเครื่องดูดควัน พัดลมดูดอากาศ หรือหน้าต่างบานเล็กให้ลมผ่านได้สะดวก จะช่วยให้ครัวโปร่งโล่ง ทำอาหารแล้วสบายใจยิ่งขึ้น
สรุปบทความ
การจัดฮวงจุ้ยห้องครัวเป็นอีกจุดเล็ก ๆ ที่ส่งผลใหญ่ต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ และโชคลาภของบ้าน หากจัดวางได้ถูกหลัก ใช้งานครัวก็จะคล่องตัว บ้านก็จะดูน่าอยู่ไปพร้อมกัน นอกจากออกแบบห้องครัวให้สวยแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับวัสดุจบงานต่าง ๆ เพื่อให้ห้องครัวสมบูรณ์แบบที่สุด
Alusite จำหน่ายวัสดุสำหรับงานตกแต่งพื้นและผนัง ไม่ว่าจะเป็นคิ้วอลูมิเนียม คิ้วกระเบื้องเคาน์เตอร์ครัว บัวเชิงผนังอลูมิเนียม และอื่น ๆ อีกมากมาย ผลิตจากวัสดุคุณภาพ ทนทาน พร้อมติดตั้ง หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือขอคำแนะนำได้ที่ Line : @alusite หรือโทร. : 038-571 612-13 / 038-842 748-49